หลักการของการตั้งชื่อ ชื่อนั้นสำคัญไฉน
การตั้งชื่อนั้นมีความสำคัญไฉน ให้คุณให้ประโยชน์อย่างไร นอกเหนือการตั้งชื่อเพื่อให้คนได้รู้จักตัวตนบุคคลนั้นๆแล้ว ทำไมต้องตั้งชื่อ เป็นบุคคลที่ไม่มีชื่อได้หรือ ไม่ แล้วเขาจะเรียกเราว่าอย่างไร หลักการและเหตุผลในการตั้งชื่อ นอกจากความเท่ห์แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องให้ความเป็นมงคลด้วย ถ้าแรงน้อยก็ต้องตั้งให้แรงเยอะ ถ้าแรงดวงเยอะก็ต้องตั้งให้แรงชื่อน้อย เพื่อขับดันอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อให้มีความสมดุลในการใช้ชื่อเป็นตัวเสริม หรือเป็นตัวลบ
ตั้งชื่อต้องตั้งอย่างไร ถึงจะให้ได้สิ่งที่เป็นมงคลแก่ชีวิต บางคนก็บอกว่าตั้งชื่อให้เรียกแล้วเป็นมงคลก็พอแล้ว เช่น บุญยืน บุญสม ทองคำ รุ่งเรือง มารวย เจริญสุข สำเร็จ ยิ่งเจริญ ตั้งแล้วให้คนเรียก หรือเอ่ยชื่อ ให้เป็นมงคล เพื่อที่จะให้ดีสมตามคำที่เขาเรียก แต่จะดีหรือไม่ดี จะถูกโฉลกกับเจ้าตัวนั้นหรือไม่ถูกโฉลก ก็ไม่ทราบเรื่องได้ ไม่ได้สนใจถึงที่มาและที่ไป ว่าตั้งแล้วจะเป็นผลดีหรือไม่ดีอย่างไร บางคนก็บอกว่าเป็นชื่อที่พ่อแม่ตั้งมาให้ ก็ถือว่าต้องดีอยู่แล้ว แต่พ่อแม่ไม่ได้อยู่กับเราตลอด ว่าตั้งชื่อไปแล้วจะทำให้เราลำบาก หรือประสบความสำเร็จมากน้อยขนาดไหน
ถ้าพ่อแม่รู้ในเรื่องของสิ่งที่ถูกโฉลกหรือไม่ถูกโฉลก จะรู้ได้ทันที ว่าคุณพ่อกำลังทำร้ายลูกแล้ว เพราะความรู้เท่าไม่ถึงกาล ทำให้ชีวิตลูกตกต่ำ ประสบปัญหากับชีวิตมากลำบาก หรือถึงไม่ลำบากแต่ชีวิตก็ต้องขวนขวาย ดิ้นรน ปากกัดตีนถีบ รู้แบบไม่จริงคิด ว่าเป็นมงคลอย่างเดียว ไม่สนใจดินน้ำลมฝน คิดอย่างนี้แล้วลำบาก ทำให้ลูกหลานไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต เพราะความไม่เข้าใจ ในโชคชะตาฟ้าลิขิต
คนที่ได้ผ่านได้การศึกษามาแล้ว เขามีความสามารถเรียนรู้โชคชะตา ฟ้าลิขิตมาแล้ว เขามีความสามารถอ่านดวง และตั้งชื่อได้โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับเจ้า ของชื่ออย่างแน่นอน คนที่เข้าเรียนมาเขาด้วยหลักการและเหตุผล เพื่อช่วยในการตั้งให้ มีกำลังเสริม หรือมีกำลังเป็นลบ เพราะโชคชะตา ฟ้าลิขิตนั้นแรงเกินไป เพราะก่อนที่เขาจะตั้งให้ นักพยากรณ์เขาจะต้องอ่านดวงและโชคชะตาของคนๆนั้นก่อน หรือเด็กที่ เพิ่งจะคลอดมาใหม่ๆ เพื่อที่จะตั้งชื่อไม่ให้มีผลลบ ทำให้ชีวิตในอนาคตรู้สึกว่าแย่ และจะได้ทราบถึงอนาคตการดำเนินชีวิตนั้นจะเป็นอย่างไร
ด้วยเหตุนี้การตั้งชื่อนั้นจึงถือว่า มีความสำคัญในการวางแผน มีความสำคัญในการเตรียมการ วางเป้าหมายในการดำเนินชีวิต ที่จะให้ความมั่นคงตลอดไป พ่อแม่ที่ไม่รู้หลักการในเรื่องตั้งชื่อ หรือให้พระดูก็ถือว่าเป็นมงคล ถ้าพระเป็นรู้เรื่องของโหรา ศาสตร์ก็ดีไป แต่ถ้าไม่รู้แล้วมานั่งตั้งชื่อ ก็เหมือนทำงานโดยไม่ได้เรียนหนังสือ การตั้งชื่อตามความต้องการของพ่อแม่ตนเองโดยไม่คำนึงถึงความเจริญรุ่งเรืองของลูก อาจจะทำให้มีผลเสียในอนาคต และต่อไปลูกก็ต้องไปเปลี่ยนอีก
หลายเหตุผลที่คนมักจะอ้างเหตุผลกันอยู่เสมอ ว่าตั้งชื่อแล้วเพื่อความเป็นสิริมงคล ชื่อนี้ก็ดีแล้ว แล้วดีอย่างไร เป็นความคิดของคนที่ไม่รู่จักคิด คิดตามอำเภอใจคิดเพราะว่าพ่อแม่ก็ตั้งให้ การตั้งชื่อต้องใช้ตลอดชีวิต ทำไมไม่ให้ผู้รู้ดูให้ก่อน เพราะอย่างน้อยที่สุด เมื่อตั้งชื่อดี ชื่อของเขาๆก็จะต้องทำให้เขาดีตลอดชีวิต
การตั้งชื่อคือ ต้องคัดมาจากวันเดือนปีเกิด ให้ดูว่าเขาขาดอะไร ในการดำเนินชีวิต แล้วนักพยากรณ์ก็เติมสิ่งที่เขาขาดให้เต็มกับชีวิตเขา เพื่อเสริมดวง บารมีให้เขาได้มีโชคมีลาภ ได้มีความเจริญรุ่งเรือง ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ส่งผลเกื้อกูลให้โชคชะตาได้มีในลาภยศสรรเสริญ ให้มีผู้คนเคารพนับหน้าถือตา ให้ทำมาหากินให้ประสบความสำเร็จ ให้การเงินการทองมั่งคั่ง และให้เป็นคนดีของชาติบ้านเมือง
หลักการตั้งชื่อจึงต้องมาจากวันเดือนปีเกิด และเวลาตกฟาก ว่าในโชคชะตาชีวิตของเขาขาดอะไร ขาดบุญบารมี ขาดญาติพี่น้อง ขาดอายุขัยไม่ยืนยาว ขาดความมีเสน่ห์โชคลาภ ขาดทรัพย์สินเงินทอง ขาดญาติผู้ใหญ่ให้การอุปถัมภ์ หากกระทำการสิ่งหนึ่งสิ่งใดแล้วอย่าได้มีแต่อุปสรรค อย่างได้ต้องเหนื่อยยากลำบากกาย
ดังนั้นการตั้งชื่ออย่างไรถึงจะได้รับการทดแทนในสิ่งที่ขาดหายไป
และตั้งชื่ออย่างไรที่จะเสริม เสริมโชคชะตา ให้มีดวงและโชคชะตาที่ดี
วิธีการตั้งชื่อในสมัยโบราณ ศาสตร์แห่งการตั้งชื่อโบราณ ก็มักจะตั้งโดยใช้อักษร เป็นสำคัญ และเสริมด้วยการใช้ทักษาที่จะให้ความมั่นคงในชีวิต ใช้อักษรเป็นตัวตั้งเป็นหลักนำในการวิเคราะห์ ถึงอำนาจ บริวาร มนตรี อายุขัย อุปสรรค อุสาหะ ความมีเสน่ห์โชคลาภ โดยใช้อักษรเป็นสิ่งเสริมสร้างในส่วนที่ขาดหายไป
แต่ในปัจจุบันนี้ ก็จะนำเอาหลักของตัวเลข มักจะเอามาเป็นบรรทัดฐานในการวิเคราะห์ดวง ว่าตกเลขอะไร แล้วจะเจออะไรกับปัญหาชีวิต อนาคตชีวิตจะเป็นอย่าง ไร โดยหลักการนี้ที่เรียกกันว่า เลขศาสตร์
ดูทะเบียนรถ ดูเขที่บ้าน ดูเลขที่บัตรประชาชน ดูเลขที่สมุดธนาคาร ดูเลขที่ เบอร์โทรศัพท์ บวกลบคูณหารกันแล้วก็ทำนายออกมาว่าชีวิตจะเป็นอย่างไร
แต่หลักของดวงจีนแล้ว อาจจะต้องถอดยามออกมาตรวจดวงกันก่อนว่าในพื้น ฐานดวงชะตาชีวิตนั้นขาดเหลืออะไรในชีวิต เมื่อโชคชะตาชีวิตไม่ประสบความสำเร็จ หรือสำเร็จมากเกินพิกัด ก็จะต้องใช้หลักของการตรวจดวงและโชควาสนากันก่อน
ดังนั้นเมื่อหลักของดวงจีนนั้น สำคัญอยู่ที่ การถอดยาม วันเดือนปีเกิดและเวลาตกฟากก่อน แล้วถึงจะตั้งชื่อ จึงเป็นการถืออีกหลักการหนึ่ง โดยใช้หลักการผสมผสานกันระหว่างดวงจีน และศาสตร์แห่งการตั้งชื่อ เพื่อหาสิ่งทดแทนของชีวิตที่ขาดหายไป และทุกอย่างก็สามารถแก้ได้ ถ้าเราต้องการแก้
ชื่อนั้นตั้งได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชื่อคน ชื่อบริษัท ห้าง ร้าน โรงงาน โรงแรม ที่อยู่อาศัย หมู่บ้าน อพาร์ทเมนท์ กิจการต่างๆ โดยใช้หลักของดวงเจ้าของ หรือผู้อำนายการ เป็นหลัก เพื่อเสริมดวงและโชคชะตาของชื่อนั้นที่จะได้จากการตั้งชื่อ มีมากกว่า ถึง 15 เปอร์เซ็นต์
ดวงชะตาของคนเรานั้น 30 เปอร์เซ็นต์ ที่อยู่อาศัยบ้านอาคารโรงงาน โรงแรมที่พัก อพาร์ทเมนท์ 30 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ดวงคนจะดีจะร้าย จะลบหรือจะบวก ก็มี แค่ 30 เปอร์เซ็นต์ ถ้าถูกลบลงไปแล้ว 15 เปอร์เซ็นต์ ก็จะเหลือแค่ 15 เปอร์เซ็นต์เอง เหนื่อยเหมือนกันนะครับ
ซินแส เข่ง
หมอดู เข็มทิศทองคำ