จุดเริ่มต้น  สู่การเป็น

ซินแสเข่ง

กับศาสตร์แห่งฮวงจุ้ย

เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อกับการได้ก้าวเข้ามาสู่วงจรแห่งการเป็นนักพยากรณ์  และการเป็นซินแส  ที่ทุกคนรู้จักในนามของ  ซินแส  เข่ง  (  หมอดู  เข็มทิศทองคำ  )  กว่าจะถึงวันนี้  ในโชคชะตานั้นพบอะไรมาหลายอย่าง  ทั้งสุข  ทั้งทุกข์  ทั้งดี  และทั้งไม่ดี  คลักเคล้ากันไป

และก่อนที่จะได้มาเป็นซินแส หมอดู หรือนักพยากรณ์  ทุกคนย่อมมีที่มาที่แตกต่างกันออกไป อะไรถึงได้ชักนำทำให้มีความคิดที่ต้องการจะศึกษาหาความรู้ว่าอะไรคือ  หลักวิชา ฮวงจุ้ย  และอะไร  คือ สาเหตุของการตัดสินใจเข้าสู่วงการ  พยากรณ์   อะไร หรือคือสาเหตุที่แก้จริง  ถึงได้ค้นคว้าอย่างจริงจัง       

จากจุดเริ่มต้นถึงที่มา แรงบันดานใจที่สำคัญในการตัดสินใจใช้วิชา  ฮวงจุ้ยเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ประสบประปัญหา และ  ฮวงจุ้ยสามารถช่วยเหลือคนได้จริงหรือ  จึงทำให้ยิ่งต้องสนใจมากขึ้นในการศึกษาเรื่องของ   ฮวงจุ้ย หรือ  ฮวงซุ้ย  ว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ  ทำให้จุดประกายในการเริ่มเรียนรู้  ประกอบกับได้ประสบการณ์จริงที่อยากจะนำมาเล่าสู่กันฟัง และจุดนี้จึงเป็นจุดสำคัญในการดึงดูดความสนใจ  และเป็นจุดเริ่มต้นในการศึกษาหาความรู้ในศาสตร์แห่ง  ฮวงจุ้ย  จากเดิมที่ได้เคยเรียนรู้หลักของโหราศาสตร์ไทยสมัยบวชเป็นพระ   และได้ติดตามอาจารย์ใหญ่ในศาสตร์แห่งดวงจีน  

จากการที่ได้มีโอกาสติดตามซินแสใหญ่  โดยใช้หลักของการพยากรณ์จากโหรา ศาสตร์จีนมาบ้างแล้วพอสมควร  และค้นคว้าด้วยตนเองด้วย  เป็นเพียงต้องการอยากศึกษาเพื่อความรู้เป็นการประดับความรู้ส่วนตัวเท่านั้นเอง  และไม่ได้คิดที่จะมาทำเป็นอาชีพ เรียกได้ว่าอาจเป็นเพราะกรรม  หรือวาสนา จากการเพราะได้มีโอกาสติดตามผู้หลักผู้ใหญ่ ที่มีความรู้ ในศาสตร์ของโหราศาสตร์จีน จนกระทั่งเข้าใจในหลักการของโหราศาสตร์จีนเป็นอย่างดี  โชคดีที่ไม่เคยซื้อหนังสือหรือตำราในท้องตลอดมาอ่าน  เพราะตำราเหล่านั้นเป็นหนังสือแปลอ่านแล้วสับสน  ไม่เข้าใจ  ไม่รู้เรื่อง

            จะเป็นโอกาส หรืออาจจะได้บารมีจากสวรรค์  จุดสำคัญอีกจุดหนึ่ง  ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจจุดสำคัญแห่งชีวิต  ที่ถือว่าเป็นจุดเริ่ม ต้นของการศึกษาในหลักสูตรของศาสตร์แห่ง  ฮวงจุ้ย  หรือ  ฮวงซุ้ย  อย่างแท้จริง โดยไม่ตั้งใจเพราะเป็นเรื่องที่เร้นลับ  ยากที่จะเข้าใจในเบื้องต้นได้ และเป็นวิชาชั้นสูงเหมือนวิชาตำรา พิชัยสงคราม  ที่สูงกว่าโหราศาสตร์ไทย  นั่นคือ   ศาสตร์แห่งฮวงจุ้ย  และศาสตร์แห่งฮวงซุ้ย เรื่องนี้ถือว่าเป็นสำคัญของการถ่ายทอดวิชามาสู่ตัวผม  เป็นนิมิตรหมายอันดี    หรืออาจเป็นสิ่งที่โชคดีที่มนุษย์คนหนึ่งได้รับเหนือมากกว่ามนุษย์ทั่วไป   

           การที่มีโอกาสได้ติดตามและปฏิบัติการจริง  กับปรมาจารย์ศาสตร์แห่ง ฮวงจุ้ย ในการทำหน้าที่เป็น ผู้ช่วย  หรือเป็นผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดให้เป็นศิษย์จะจงใจหรือไม่  แต่ก็ถือว่าได้รับแล้ว   เพราะเป็นผู้รับหน้าที่อาสาในการหาสาเหตุการฝังศพที่เรียกว่า  ที่ผีดิบ  ในสุสานแห่งหนึ่งและได้เป็นผู้ที่ทำหน้าที่ในการขุดศพ   เพื่อการพิสูจน์ว่าศพที่ฝังดินมานานกว่า  10  ปี 20  ปี  และ 30  ปี  จำนวนถึง  5  ศพ  ที่เสียชีวิตตามลำดับ  และที่ฝังอยู่ในสุสานจีนแต้จิ๋ว  เป็นตามคำทำนายของ  ปรมาจารย์ซินแสท่านนั้นว่ามี  ศพที่ฝังอยู่ในที่ดินจุดนี้เป็นที่ผีดิบที่ยังคงสภาพศพเหมือนเดิมปกติทุกประการ  และสภาพศพที่ไม่เน่าไม่เปื่อย ไม่ผุกร่อนเป็นไปตามวาระอายุขัย   เป็นศพที่ยังคงสภาพร่างเอาไว้เหมือนเดิมทุกประการได้  ด้วยสาเหตุตำแหน่งที่ดินจุดนั้น จนเป็นที่ถูกกล่าวขานขนานนามศพที่ฝังในจุดที่ดินนั้นว่า  เป็นศพผีดิบ

ด้วยสาเหตุจุดสถานที่ดั่งกล่าวที่ทำให้เกิดเหตุศพที่ฝังไม่เน่าไม่เปื่อยนั้นจะทำให้โน้มน้าวดึงลูกหลาน  ให้ต้องตายจากไปก่อนวัยอันสมควร  และบุคคลเหล่านั้นจะเสียชีวิตไปตามลำดับของลูกคนโต  ของตระกูล หรือลูกหลานที่อยู่ในตระกูลเดียวกันที่เป็นคนโต ให้มีอันเป็นไป  ให้มีอันต้องตาย ตกไปตามกัน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม  จะต้องเป็นอย่างที่ท่านปรมาณจารย์ท่านได้ทำนายไว้  จึงทำให้เกิดความต้องการอยากรู้ถูกจุดประกายให้ต้องหาคำตอบว่าเป็นจริงดั่งที่ทำนายไว้หรือไม่

            ความจริงแล้วก่อนทำการขุดก็ยังไม่ทราบสาเหตุว่า  เมื่อขุดศพขึ้นมาแล้วจะเป็นอย่าง ไรในสภาพ  และจะเกิดอะไรขึ้น  กับเหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้น  การรับหน้าที่อาสาในการขุดหลุมศพเป็นเพราะเพียงอยากรู้เท่านั้นเอง  ว่าปรมาจารย์ท่านนี้จะรู้จริงหรือไม่  จนกระทั่งได้ทำหน้าที่ขุดศพที่ฝังอยู่ตามลำดับอายุผู้ที่เสียชีวิต 

เมื่อมีโอกาสได้ลงไปในหลุม เพื่อรื้อโลงหัวหมูในสมัยก่อน  ที่ใหญ่มากเพื่อลงไปยกศพขึ้นมา   หลังจากเปิดปากหลุมเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ก็ลงไปในหลุม  ดึงฝาโลงออกไม้ที่หนาใหญ่ฉีกออกอย่างง่ายดาย  ให้เห็นผู้เสียชีวิตนอนอยู่ในโลงที่แตกผุพังแล้วแต่สภาพศพยังเหมือนเดิมทุกอย่าง  สร้างความแปลกใจให้เกิดขึ้นว่า  ทำไมสภาพศพยังเหมือนกับคนนอนหลับธรรมดา  ทั้งที่อายุของการฝั่งศพนั้นนานกว่า 20-30  ปีมาแล้วก็ไม่ได้ทำให้มีสภาพศพแห้งเหมือนกับ  ศพของพระเกจิอาจารย์  ที่ดับไปแล้วสภาพศพจะแห้ง  เส้นผมงอกยาว  เล็บยาว   แต่สภาพศพที่เห็นยังอูมอิ่มเหมือนคนนอนหลับ  เส้นผมงอกยาว  เล็บงอก  เหมือนคนนอนหลับธรรมดา

            ผมขุดศพคนในตระกูลนี้ขึ้นมาเป็นจำนวน  5  ศพ โดยมีทีมงานของผมมาช่วยยกศพขึ้น  ตามคำทำนายของปรมาจารย์ซินแส แล้วนำศพเหล่านั้นมาใส่โลง  กระดาษตั้งเรียงรายเอา  เพราะเวลาในขณะนั้นเริ่มที่จะมืดลงแล้ว        

            เพื่อทำพิธีสวดบังสุกุล  เพื่อที่จะเตรียมทำการฌาปนกิจศพต่อไปใน   เพราะต้อง การทำในคืนนั้นเลย  หากปล่อยเอาไว้  สภาพศพจะเปลี่ยนไป  เพราะเมื่อนำขึ้นมาแล้วสภาพศพเริ่มที่จะมีน้ำเหลืองออกมา  จึงต้องรีบที่จะดำเนินการเผาในเตาเผาสมัยก่อนที่มีเพียงแต่แท่นที่นำโลงมาวางไว้แล้วใส่ฟืนเข้าไป

 ในขณะที่ทำการเผาก็ปรากฏว่า ศพเหล่านั้น ยังคงมีเลือดพุ่งออกมาจากสภาพศพทั้ง  5 ศพ  และเลือดพุ่งสูงเกือบหนึ่งเมตร จนทำให้ตกใจว่าศพ ที่ฝั่งลงไปมีอายุ  10  ถึง  30  ปี  ทำไมยังมีเลือดอยู่  เหมือนคนธรรมดานอนอยู่และปรมาจารย์ซินแส  ท่านรู้ได้อย่างไร  ว่าจุดนั้นเป็นจุดที่ผีดิบ  

            เมื่อเผาศพทุกศพผ่านไป  ก็เก็บกระดูกที่ยังคงหลงเหลืออยู่  เพื่อนำส่วนหนึ่งไปลอยอังการ  อีกส่วนหนึ่งก็ให้ญาติของผู้เสียชีวิตนำเก็บไว้ในโกฎิ์  ที่เก็บกระดูก  เพื่อให้ญาติได้มารับไปเพื่อกราบไหว้บูชาต่อไป

            และเหตุการณ์ต่างๆที่จะทำให้ญาติ ลูก หลาน ที่จะมีอันเป็นไป  ก็ชะงักลง  ทำให้ขาดตอนการที่จะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น การแก้ไขอย่างนี้  ถือว่าเป็นการดี  เพราะเป็นการได้ช่วยเหลือผู้ที่ยังมีชีวิตได้อยู่รอดต่อไป  ไม่ทำให้ลูกหลานต้องเสียชีวิตอย่างต่อเนื่องต่อไป

            นี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง  ในเรื่องของที่อยู่คนตาย  คือ  ฮวงซุ้ยที่สำหรับฝังร่างศพคนตาย  จึงต้องดูที่จุดตำแหน่งการฝังศพ  หรือให้ตรวจตราที่ดินจุดนั้น  ว่าเหมาะสมหรือไม่สมควรใช้ที่ดินจุดนั้นฝังศพ  ดังนั้นการสร้าง ฮวงซุ้ย จึงมีส่วนสำคัญ ที่ไม่ต้องการให้มีผลกระทบต่อคนเป็น  คือ  ที่อยู่คนตาย   ก็ควรที่จะต้องหาที่ๆดี   จุดตำแหน่งต้องดี   และจุดดินจุดนั้นต้องมีดินที่ดีตามหลักของ  ฮวงซุ้ย   

            นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้สนใจ  และต้องการอยากจะเรียน  ต้องการเป็นศิษย์  จึงได้ลงมือศึกษาอย่างจริงจัง พยายามเก็บข้อมูลทุกอย่างไว้อย่างรอบครอบ เพราะเรื่องของ ฮวงจุ้ย หรือ ฮวงซุ้ย  เป็นสิ่งที่เร้นลับ และเป็นวิชาที่สูงส่ง และศาสตร์นี้จึงไม่เหมาะที่จะให้เพศหญิงมาศึกษา  เพราะในบางครั้งช่วงจังหวะรอบเดือนมา  ก็อาจจะไม่สะอาดเท่าที่ควร และการที่จะต้องไปเดินดูบ้าน หรือการดูหลุมศพจึงเป็นอันตรายอย่างมาก  และเสียงต่อชีวิตของตนเอง   อีกทั้งถ้าไม่รู้จักรักษาศีลสมาธรรม  หรือไม่รู้จักป้องกันตนเองให้มาก  อาจจะโดนสิ่งที่เร้นลับที่มองไม่เห็นปะทะกับตนเองได้ 

            เพราะบ้านแต่ละบ้าน หรือสุสาน แต่ละสุสานนั้นมีสิ่งเร้นลับที่แตกต่างกัน  ฉะนั้น  ซินแส  หรืออาจารย์ดู  ฮวงจุ้ยบางครั้งต้องรู้จักป้องกันตนเองด้วย  เพราะเมื่อเข้าบ้านใครก็ตามก็ต้องขอเจ้าที่เจ้าทาง  หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านนั้นก่อน  เพื่อให้เจ้าที่เจ้าทางได้เปิดทางให้ได้ดูและได้แก้ไขรักษาบ้านของเขาให้ประสบในสิ่งที่ดี  และต้องขอขมาบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางไปด้วย ว่าที่มานั้นไม่ใช่เป็นการลบหลู่

         จากจุดที่น่าสนใจในการตรวจหน้าดิน  หรือที่ดินจากปรมาจารย์ซินแสผู้รู้  ว่าที่ดินจุดนั้นดีหรือไม่ดี และทำไมถึงเรียกว่าเป็นจุด ฮวงซุ้ยว่าที่ผีดิบได้อย่างไร  และ ฮวงจุ้ย กับ  ฮวงซุ้ย  นั้นสร้างความหมายความมั่นคงต่อมนุษย์อย่างไร มีความ แตกต่างกันอย่างไร  อะไร  คือ  ฮวงจุ้ย  อะไร  คือ  ฮวงซุ้ย 

หลักการแก้ไขและสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องราว ปัญหาความแตกแยก  พลัดพราก  ตายจาก  เป็นมาอย่างไร  ในหลักการเรื่องของการเสริมดวง  การเสริมโชคเสริมอย่างไร   ในเรื่องของการแก้ไขในการวางตำแหน่งต่างๆของหลักของ  ฮวงจุ้ย

ทิศทางมีความหมายอย่างไร   การทำอย่างไรถึงจะเรียกว่าบ้านที่สามารถเสริมโชคชะตาให้ผู้อยู่อาศัย  การสร้างฮวงซุ้ย  ที่สามารถส่งเสริมให้ลูกหลานปลอดภัย  ไม่เจ็บป่วยไข้  ทำมาหากินแล้วให้เจริญ รุ่งเรือง ให้ลูกหลานได้อยู่เย็นเป็นสุขอย่างไร  ไม่ให้มีการขัดแย้งกันเกิดขึ้น  ไม่ให้เกิดการทำร้ายแย่งชิงทรัพย์สิน 

หลักวิชาของศาสตร์แห่ง  ฮวงจุ้ย  จึงเป็นหลักวิชาของความเสี่ยง  หรือไม่รู้จริงถ้าทำแล้วไปแล้วไม่ชัดเจน  ก็อาจจะเป็นเหมือนดาบสองคม ที่อีกคมหนึ่งอาจจะทำลายเจ้าชะตา  ให้เจ้าของบ้านได้รับความเดือดร้อนได้  หรือให้ลูกหลานของเขาเดือดร้อนได้   และต้องระวังให้มาก  ในการวางหลักการ  ที่ไม่ใช่ของเล่น  หรือของลอง  

แต่ถ้าทำแล้วถูกต้อง  เป็นไปตามหลักวิชาการ  ในหลักการศาสตร์แห่ง  ฮวงจุ้ย  ก็สามารถช่วยเสริมดวงมนุษย์ให้ประสบความสำเร็จในธุรกิจ  หน้าที่การงาน  ให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองเกิดขึ้นได้  การตั้งดวงบ้าน  หรือการวางหลัก  ฮวงจุ้ย  นั้นคือการสร้างความ สำเร็จให้เกิดขึ้นกับทุกชีวิตที่อยู่ภายใต้บ้านหลังนั้น  ให้ได้รับในสิ่งที่ดีๆ  ภายใต้การวางหลักของศาสตร์แห่ง  ฮวงซุ้ย  อย่างแท้จริง หรือแม้นกระทั่ง  การวางหลุมศพบรรพบุรุษ  พ่อ  แม่   ปู่  ย่า  ตา  ยาย   ในจุดตำแหน่งของการฝังบรรพบุรุษนั้นจะเสริมดวง    หรือไม่เสริมดวง  ที่จะทำให้ลูกหลานได้มีความเจริญรุ่งเรือง  มั่นคง   ดุจดั่งมหาเศรษฐีระดับประเทศ  ระดับโลก  ได้หรือไม่  ก็อยู่ที่การฝังศพและการสร้าง  ฮวงซุ้ย   ที่ดี  ที่จะให้ความมั่งคั่งชั่วนิรันดร 

  ซินแส  เข่ง

  หมอดู  เข็มทิศทองคำ